ความรู้เรื่องฟอนท์
ความแตกต่างของไทป์เฟซกับฟอนต์
บุคคลทั่วไปมักใช้คำว่า ฟอนต์ (font/fount) เรียกแทนไทป์เฟซ
หรือใช้เรียกสลับกัน แต่ในความจริงแล้วมีความหมายที่แตกต่างกัน
ไทป์เฟซหมายถึงชุดตัวอักษรที่มีรูปแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่เล็กเท่าไร เช่น Arial,
Arial Bold, Arial Italic และ Arial Bold Italic ต่างเป็นไทป์เฟซคนละชนิดกัน
ส่วนฟอนต์จะหมายถึงชุดตัวอักษรที่มีทั้งไทป์เฟซและขนาดเดียวกัน ตัวอย่างเช่น Arial
12 พอยต์ก็เป็นฟอนต์หนึ่ง Arial 14 พอยต์ก็เป็นฟอนต์หนึ่ง
Arial Bold 14 พอยต์ก็เป็นอีกฟอนต์หนึ่ง เป็นต้น ในการสร้างเอกสารแบบดิจิทัล ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนขนาดฟอนต์ได้เองในคอมพิวเตอร์
ทำให้ความแตกต่างของไทป์เฟซกับฟอนต์จึงลดความสำคัญลงไป
สำหรับตระกูลหรือสกุลของตัวอักษร (font/type family) มีความหมายกว้างกว่าไทป์เฟซ กล่าวคือ
แบบตัวอักษรชื่อเดียวกันที่อาจมีรูปแบบต่างๆ กัน ถือเป็นแบบอักษรตระกูลเดียวกัน
โดยปกติจะมี 4 รูปแบบคือ roman, italic, bold, bold
italic แบบอักษรบางตระกูลอาจมี narrow, condensed หรือ black อยู่ด้วยก็ได้ ดังนั้น Arial,
Arial Bold, Arial Italic และ Arial Bold Italic ทั้งหมดเป็นแบบอักษรในตระกูล Arial ในขณะที่ Helvetica หรือ Courier ก็เป็นอีกตระกูลหนึ่ง
อ้างอิงhttps://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%8B
อ้างอิงhttps://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%8B
รูปแบบตัวอักษร
ตัวอักษรที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น
4 รูปแบบใหญ่ ๆ คือ
Font แบบ Serif
จะดูเป็นระเบียบ เป็นทางการ เหมาะจะใช้ในงานที่เป็นทางการ
และต้องการความน่าเชื่อถือมากๆ
Font แบบ San
Serif จะอ่านง่าย ดูทันสมัยมากกว่าแบบอื่น ๆ
เหมาะจะใช้ในงานที่ต้องการ ความทันสมัยออกแนวไม่เป็นทางการมากนัก
Font แบบ Antique
จะเหมาะกับงานที่ต้องการแสดงความชัดเจนของยุคสมัย
หรือต้องการอามรณ์ย้อยยุคนิดหน่อย
Font แบบ Script เหมาะกังานที่ไม่เป็นทางการ
ต้องการความเป็นกันเองและดูสนุกสนานมากกว่าแบบอื่นๆ หรือในบางกรณี Font แบบนี้จะใช้ในงานที่ต้องการข้อความที่ดูเหมือนเป็นลายมือเขียน
หลังจากรู้จัก Font กันดีขึ้นแล้ว
ในหัวข้อต่อไปเราจะมาพูดถึงวิธีเลือกใช้งาน Font ให้เหมาะสมกับงานออกแบบกัน
วิธีเลือก Font ไปใช้ในงานออกแบบ
การเลือก Font ไปใช้ในงานออกแบบมีข้อควรคำนึงง่าย ๆ อยู่ 2
ข้อคือ
1. ความหมายต้องเข้ากัน หมายความว่า ความหมายของคำและ Font ที่เลือกใช้ควรจะไปด้วยกันได้
เช่น คำว่าน่ารักก็ควรจะใช้ Font ที่ดูน่ารักไปด้วย
ไม่ควรใช้ Font ที่ดูเป็นทางการดังภาพตัวอย่าง
2. อารมณ์ของฟอนต์ และอารมณ์ของงานต้องไปในทิศทางเดียวกัน เช่น
งานที่ต้องการความน่าเชื่อถือก็จะเลือกใช้ Font แบบ Serif
ที่ดูหนักแน่น น่าเชื่อถือ
ส่วนงานที่ต้องการความฉูดฉาดอย่างโปสเตอร์ลดราคาก็ควรจะเลือกใช้ Font ที่เป็นกันเองไม่เป็นทางการมากนักอย่าง Font ในกลุ่ม
Script เป็นต้น
นอกจากการเลือก Font มาใช้งานแล้ว
การวางตำแหน่งตัวอักษรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญกับการทำงาน
สำหรับการวางตำแหน่งตัวอักษร มีข้อควรคำนึงถึงไว้ให้อยู่ 3 ข้อคือ
ธรรมชาติการอ่านของคนไทยจะอ่านจากซ้ายไปขวา
และบนลงล่าง โดยมีรัศมีการกวาดสายตาตามลำดับ ดังนั้นถ้าอยากให้อ่านง่าย
ควรจะวางเรียงลำดับให้ดีด้วย
ไม่เช่นนั้นจะเป็นการอ่านข้ามไปข้ามมาทำให้เสียความหมายของข้อความไป
จุดเด่นควรจะมีเพียงจุดเดียว
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ มีตัวอักษรตัวใหญ่ๆ อยู่เพียงชุดเดียว
จึงจะเป็นจุดเด่นที่มองเห็นได้ง่าย ไม่สับสน ส่วนจุดอื่น ๆ ขนาดควรจะเล็กลงมาตามลำดับความสำคัญ
ไม่ควรใช้ Font หลากหลายรูปแบบเกินไป
จะทำให้กลายเป็นงานที่อ่านยากและชวนปวดศรีษะมากกว่าชวนอ่าน ถ้าจำเป็นจริง ๆ
แนะนำให้ใช้ Font เดิมแต่ไม่ตกแต่งพวกขนาด, ความหนาหรือกำหนดให้เอียงบ้าง
เพื่อเพิ่มความน่าสนใจไม่ให้งานดูน่าเบื่อแบบนี้จะดีกว่า
อ้างอิงhttp://www.km-web.rmutt.ac.th/?p=315
อ้างอิงhttp://www.km-web.rmutt.ac.th/?p=315
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น